คนส่วนใหญ่เขียนวัน เดือน ปี โดยใช้ตัวย่ออย่างเช่น วันที่ 18 มกราคม ค.ศ. 1996 ในยุโรปจะเขียนย่อเป็น 18-01-96 และในอเมริกาจะเขียนเป็น 01/18/96 แต่ลองนึกดูว่า หากเราไปพบเอกสารฉบับหนึ่ง ที่ค่อนข้างเก่าและเขียนวันที่ไว้ว่า 12/18/06 ก็จะต้องเหนื่อยมากขึ้นอีกหน่อย ในการที่จะต้องค้นหาต่อไปว่าปีค.ศ. ที่เขียนในเอกสารฉบับนี้เป็น ค.ศ. 1706, 1806 หรือ 1906

ตั้งแต่แรกเริ่ม โปรแกรมเมอร์ก็มี วิธีการเขียนวัน เดือน ปีในลักษณะข้างต้น นั่นคือไม่มีการระบุเลขสองตัวแรกของปีค.ศ. โดยคิดแต่เพียงว่าเติมเลข 19 ลงด้านหน้าก็แสดงปีค.ศ.ที่สมบูรณ์ ดังนั้นวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2000 ก็จะถูกเขียนเป็น 01/01/00 การที่คอมพิวเตอร์จะสามารถเข้าใจ หรือไม่ว่าเป็นปีค.ศ. 2000 นั้นแล้วแต่สถานการณ์

จริงๆแล้วปัญหาปีค.ศ. 2000 ก็มีเพียงแค่นี้ นั่นคือปัญหาที่เกิดจาก การย่อวัน เดือน ปี อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ดูเหมือนเป็นปัญหาง่ายๆนี้ มีผลต่อฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ ที่ใช้ตัวเลขเพียงสองตัวเพื่อแสดงปีค.ศ. ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดอาจเป็นเพียงการคำนวณ ที่ผิดพลาดเล็กๆน้อยๆของเครื่องคอมพิวเตอร์ จนไปถึงความเสียหายที่คิดเป็นมูลค่ามิได้ และเหตุนี้เองที่บริษัทใหญ่หลายบริษัท จำเป็นต้องเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับปัญหานี้

ถ้าหากอยากจะลองดูว่า เมื่อเริ่มเข้าสู่ปีค.ศ. 2000 แล้ว เครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้านจะเปลี่ยนปีค.ศ. ด้วยหรือไม่ก็สามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม ขอเตือนก่อนว่าต้องทำการ backup ข้อมูลและโปรแกรม ของเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่จะทำการทดลองเสียก่อน เพราะถ้าหากเกิดอะไรผิดพลาด ก็ยังสามารถ restore ส่วนที่ backup ได้ ขั้นตอนที่จะใช้ทดสอบมีดังต่อไปนี้

1. เตือนอีกครั้งหนึ่งว่า อย่าลืม backup ข้อมูลและโปรแกรมบนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่จะทำการทดลอง

2. เปลี่ยนวันที่และเวลาเป็น วันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 1999 เวลา 23.59 น. (วันที่และเวลาสามารถเปลี่ยนได้จาก bios settings เวลาเพิ่งเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์) แล้วปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ รอสัก 2-3 นาทีแล้วเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์อีกครั้งหนึ่ง ตรวจวันที่และเวลาว่าได้เปลี่ยนเป็นปีค.ศ. 2000 หรือไม่ หรือว่าเป็นปีค.ศ. 1900 หรือ 1980 ระบบปฏิบัติการส่วนใหญ่บน PC และ Unix มักจะไม่มีปัญหา นั่นคือเวลาได้เปลี่ยนเป็นค.ศ. 2000 หากเครื่องคอมพิวเตอร์ ผ่านการทดสอบนี้ ก็สามารถ ทำการทดลองขั้นต่อไป

3. เปลี่ยนวันที่ของเครื่องคอมพิวเตอร์เป็น วันที่ 2 มกราคม ค.ศ. 2000 หรือวันใดก็ได้หลังจากค.ศ. 1999 แล้วปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ รอสักครู่แล้วเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ตรวจสอบดูว่าวันที่ถูกต้องตามที่เปลี่ยนหรือไม่ เครื่องคอมพิวเตอร์บางเครื่องผ่านการทดสอบในข้อแรก แต่กลับสอบตกในข้อนี้เป็นเพราะว่า เครื่องคอมพิวเตอร์อาจมีปัญหา ในการรับข้อมูลวันที่ที่เลยปีค.ศ. 2000 ขึ้นไปและส่วนมากแล้วตัวปัญหาคือ real time clock (RTC) การทดสอบในข้อนี้แสดงให้เห็นว่า ถึงแม้ระบบปฏิบัติการและโปรแกรมอื่นๆ สามารถผ่านช่วงเวลาจากปีค.ศ. 1999 มาถึงค.ศ. 2000 ได้ก็ตาม ตัว RTC องกลับเก็บข้อมูลที่ใช้ระบุปีค.ศ. ด้วยตัวเลขเพียง 2 ตำแหน่ง

4. ทดสอบโปรแกรมทุกโปรแกรมที่ใช้และไม่ค่อยได้ใช้ รวมทั้งโปรแกรมที่เขียนขึ้นเองด้วย บางครั้งอาจได้พบอะไรแปลกๆจากการทดสอบนี้ ที่อาจมีปัญหาคือ อาจไม่มีทางรู้ได้ว่า โปรแกรมได้เปลี่ยนเวลาและวันที่ ตามที่กำหนดหรือไม่ หากโปรแกรมนั้นใช้ตัวเลขเพียง 2 ตำแหน่งเพื่อระบุปีค.ศ. และตัวโปรแกรมอาจจะบอกว่าตัวเลข 00 หรือ 99 ไม่ใช่ตัวเลขที่สามารถใช้ระบุปีค.ศ.ได้ ปีค.ศ. 2000 เป็นปีอธิกสุรทิน ดังนั้นอย่าลืมลองทดสอบเปลี่ยนวันที่เป็น 29 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2000

Windows 95 และโปรแกรมที่ run บน Windows 95 ดูเหมือนว่าจะไม่มีปัญหาเนื่องปีค.ศ. 2000 ส่วน Unix นั้นก็ไม่มีปัญหาเช่นกันเพราะ Unix ใช้การนับเวลาเป็นวินาทีจากปีค.ศ. 1970 อย่างไรก็ตามปัญหาจะเกิดขึ้นกับ Unix เมื่อฟังก์ชั่นเกี่ยวกับวันที่ของ Unix ต้องขยายขึ้นมากกว่า 32 บิทในปีค.ศ. 2038 ส่วน DOS นั้นอาจมีปัญหาในบางโปรแกรม เพราะฉนั้นอย่าลืมตรวจสอบโปรแกรมที่ run บน DOS